ไม้ยืนต้น (Tree) ที่มีเนื้อไม้ มีอายุยืนยาวหลายปี สืบค้นได้จาก https://www.dnp.go.th/botany/dictindex.html ที่ระบุในรายละเอียดว่าเป็น ไม้ยืนต้น หรือ ไม้ต้น
ได้ โดยต้องมีการประเมินการกักเก็บคาร์บอนในพื้นที่เพื่อใช้กำหนดเป็นค่ากรณีฐาน ณ วันขึ้นทะเบียน และคาร์บอนเครดิตที่จะได้รับคือปริมาณการกักเก็บที่เพิ่มพูนจากกรณีฐานเท่านั้น
ได้ โดยผู้พัฒนาโครงการต้องเสนอเทคโนโลยีดังกล่าวให้ อบก. เพื่อพิจารณาเห็นชอบ และประกาศใช้ก่อนจึงจะสามารถนำไปใช้ได้
ได้ โดยใช้ระเบียบวิธีการคำนวณสำหรับโครงการภาคเกษตร
ได้ แต่ต้องเป็นการดำเนินงานภายใต้ขอบเขตโครงการ และเป็นกิจกรรมที่ต่อเนื่องกัน เช่น การรวบรวมก๊าซชีวภาพจากน้ำเสียเพื่อผลิตไฟฟ้า
ผู้พัฒนาโครงการตรวจสอบว่ากิจกรรมโครงการเข้าข่ายประเภทโครงการที่ อบก. กำหนดและเป็นไปตามข้อกำหนด หลังจากนั้นผู้พัฒนาโครงการต้องส่งเอกสารแจ้งความประสงค์ในการพัฒนาโครงการ T-VER (Modality of communication: MoC) ไปยัง อบก. ก่อนเริ่มดำเนินโครงการ
นับวันถัดไปหลังจากวันที่ขึ้นทะเบียนโครงการ โดย อบก. จะแจ้งวันที่ได้รับการขึ้นทะเบียนในหนังสือแจ้งผลการพิจารณาขึ้นทะเบียนโครงการ T-VER
ยกเว้น โครงการประเภทที่ 13 เป็นวันเดียวกับวันที่เริ่มดำเนินโครงการ
โครงการ Premium T-VER ต้องมีการดำเนินงานเพิ่มเติมจากการดำเนินงานตามปกติ (Additionality) โดยผู้พัฒนาโครงการพิสูจน์ตามแนวทางที่ อบก. กำหนด ดังนี้
1. เป็นโครงการที่ใช้เทคโนโลยีที่เข้าข่ายโครงการลดก๊าซเรือนกระจกไม่ต้องพิสูจน์ส่วนเพิ่มเติม (Technology Positive List)
2. ผ่านการพิสูจน์การดำเนินงานเพิ่มจากการดำเนินงานตามปกติ (Additionality) ได้แก่ การวิเคราะห์อุปสรรค การวิเคราะห์การลงทุน และการวิเคราะห์แนวปฏิบัติทั่วไป
โดยดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ https://ghgreduction.tgo.or.th/th/about-premium-t-ver/positive-list-and-additionality.html
กำหนดระยะเวลาคิดเครดิตหรืออายุโครงการตามประเภทของกิจกรรมโครงการ ดังนี้
ประเภทโครงการ
ระยะเวลาคิดเครดิตของโครงการเดี่ยวและโครงการแบบควบรวม และกลุ่มโครงการย่อยภายใต้โครงการแบบแผนงาน (ปี)
อายุของกรอบแผนงาน
(ปี)
ประเภทที่ 1-12 และประเภทที่ 13 (เฉพาะกิจกรรมลดก๊าซมีเทนหรือไนตรัส-ออกไซด์จากการเกษตร)
5
(ต่ออายุได้ 2 ครั้ง)
20
ประเภทที่ 13-14
15
(ต่ออายุได้ 2 ครั้ง)
เว้นกรณีที่ระเบียบวิธีลดก๊าซเรือนกระจกกำหนดระยะเวลาคิดเครดิตไว้ ให้ใช้ตามที่ระเบียบวิธีฯ กำหนด
ค่าใช้จ่ายหลักมี 2 ส่วน คือ
1. ค่าตรวจสอบความใช้ได้ และ/หรือค่าทวนสอบเพื่อขอรับรองคาร์บอนเครดิตที่จ่ายให้กับ VVB
2. ค่าธรรมเนียมในการดำเนินงานของ อบก.