ทำได้ โดยผู้พัฒนาโครงการดำเนินการตามเงื่อนไขแจ้งการเปลี่ยนแปลงที่ อบก. กำหนด ทั้งนี้ ต้องมีการแจ้งการเปลี่ยนแปลงไปยัง อบก. ก่อนขอการรับรองคาร์บอนเครดิต
ได้ กรณีเป็นนิติบุคคลต่างด้าวต้องได้รับใบอนุญาตให้ประกอบธุรกิจตามกฎหมายว่าด้วยการประกอบธุรกิจของคนต่างด้าว
สามารถศึกษาหลักเกณฑ์ เงื่อนไข และข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่
https://ghgreduction.tgo.or.th/th/t-ver.html
การตรวจสอบความถูกต้องของโครงการ โดยบุคคลที่สาม หรือเรียกว่าผู้ประเมินภายนอกที่ได้รับการขึ้นทะเบียนจาก อบก. ก่อนส่งเอกสารเพื่อให้ อบก. พิจารณา
เมื่อ อบก. ได้รับครบถ้วน ถูกต้องแล้ว อบก. ใช้เวลา 60 วันทำการ ในการพิจารณา
กำหนดระยะเวลาคิดเครดิตหรืออายุโครงการตามรูปแบบการพัฒนาโครงการ และตามประเภทของกิจกรรมโครงการ ดังนี้
ประเภทโครงการ
ระยะเวลาคิดเครดิตของโครงการเดี่ยวและโครงการแบบควบรวม และกลุ่มโครงการย่อยภายใต้โครงการแบบแผนงาน (ปี)
อายุของกรอบแผนงาน
(ปี)
โครงการประเภทที่ 1-12, 14
7
(ต่ออายุได้ 1 ครั้ง)
14
โครงการประเภทที่ 13
(เฉพาะโครงการภาคเกษตร)
7
(ต่ออายุได้ครั้งละ 7 ปี ไม่จำกัดจำนวนครั้ง)
14
โครงการประเภทที่ 13
10
(ต่ออายุได้ครั้งละ 10 ปี ไม่จำกัดจำนวนครั้ง)
เว้นกรณีที่ระเบียบวิธีลดก๊าซเรือนกระจกกำหนดระยะเวลาคิดเครดิตไว้ ให้ใช้ตามที่ระเบียบวิธีฯ กำหนด
20
ไม่จำเป็นต้องขอทุกปี ผู้พัฒนาโครงการสามารถขอรับรองคาร์บอนเครดิตได้ตามความต้องการตลอดระยะเวลาคิดเครดิตของโครงการ ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับความต้องการใช้ประโยชน์จากคาร์บอนเครดิต หรือ ความคุ้มค่าของการดำเนินงานเพื่อขอรับรองคาร์บอนเครดิตในแต่ละครั้ง ซึ่งผู้พัฒนาโครงการเป็นผู้ตัดสินใจ
ปริมาณก๊าซเรือนกระจกที่ลดหรือกักเก็บได้เมื่อเปรียบเทียบกับกรณีฐาน ประเมินโดยใช้ระเบียบวิธีที่ อบก. กำหนด
กรณีฐาน (Baseline) คือ ปริมาณการปล่อยหรือกักเก็บก๊าซเรือนกระจกก่อนดำเนินโครงการลด หรือ ก่อนการเข้าร่วมโครงการ
ผู้พัฒนาโครงการสามารถเสนอระเบียบวิธีการคำนวณไปยัง อบก. เพื่อพิจารณาเห็นชอบ และประกาศใช้