ข้อมูลทั่วไป
สามารถดำเนินโครงการ T-VER ที่มีที่ตั้งหลายแห่งได้ โดยสามารถขึ้นทะเบียนเป็นโครงการแบบควบรวม หรือแบบแผนงาน ตามรูปแบบการพัฒนาโครงการที่ อบก. กำหนด
พื้นที่ขั้นต่ำจำนวน 10 ไร่ โดยสามารถรวมหลายพื้นที่เข้าด้วยกันได้
ค่าใช้จ่ายหลักมี 2 ส่วน คือ
1. ค่าตรวจสอบความใช้ได้ และ/หรือค่าทวนสอบเพื่อขอรับรองคาร์บอนเครดิตที่จ่ายให้กับ VVB
2. ค่าธรรมเนียมในการดำเนินงานของ อบก.
คือ ผู้ประเมินภายนอกสำหรับโครงการภาคสมัครใจ (Validation and Verification Body: VVB) ต้องเป็นนิติบุคคลที่ได้รับการรับรองระบบงานจาก สมอ. และต้องได้รับการขึ้นทะเบียนจากคณะกรรมการ อบก. ให้เป็นผู้ประเมินภายนอกสำหรับโครงการภาคสมัครใจตามระเบียบที่คณะกรรมการ อบก. กำหนด
1. การซื้อขายแบบตกลงกันระหว่างผู้ซื้อ-ผู้ขาย (Over the counter: OTC)
2. การซื้อขายผ่านแพลตฟอร์มออนไลน์ของสภาอุตสาหกรรม (FTIX)* อยู่ในระหว่างการปับปรุง
การพัฒนาโครงการ T-VER อ้างอิงมาตรฐาน ISO 14064-2: 2019 และมีการตรวจสอบความใช้ได้ และทวนสอบโดยผู้ประเมินภายนอกสำหรับโครงการภาคสมัครใจ (Validation and Verification Body:VVB) ซึ่งดำเนินการตามมาตรฐาน ISO 14064-3: 2019 ซึ่งเป็นมาตฐานที่สากลให้การยอมรับ
คาร์บอนเครดิตไม่มีราคากลาง ราคาการซื้อ-ขายคาร์ขึ้นอยู่กับความพึงพอใจของผู้ซื้อและผู้ขายที่จะสามารถเจรจาตกลงตกลงกันได้
- กรณีที่ขายให้กับบริษัทต่างประเทศที่นำไปใช้ในการชดเชยคาร์บอนภาคสมัครใจสามารถดำเนินการได้
- กรณีที่ต้องการใช้คาร์บอนเครดิตเพื่อวัตถุประสงค์ระหว่างประเทศ ต้องได้รับ “หนังสืออนุญาตการใช้คาร์บอนเครดิตเพื่อวัตถุประสงค์ระหว่างต่างประเทศ (Letter of Authorization)” จากสำนักงานนโนบายและแผนทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมก่อน โดยดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ https://climate.onep.go.th/
คาร์บอนเครดิตที่ผ่านการรับรองโดยคณะกรรมการ อบก. แล้ว จะไม่มีวันหมดอายุ
ขอรับรอง REC ได้ แต่ช่วงเวลาที่ขอการรับรองจะต้องไม่ซ้ำกับช่วงเวลาที่ขอการรับรองคาร์บอนเครดิต (ห้ามนับซ้ำ)